ผู้รับเหมาก็จะมี 2 ประเภท เป็นในรูปของบริษัท หรือจะเป็นผู้รับเหมาธรรมดา ทั่วไป
..... จากที่ดูข้อมูลตามเน็ต...ประมาณว่า พวกที่ก่อตั้งเป็นบริษัทรับสร้างบ้านจะคิดราคาก่อสร้าง แพงกว่าผู้รับเหมาธรรมดา เพราะเขาจะมีค่าใช้จ่ายเป็นพวกค่าเช่าสำนักงาน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าพนักงาน ฯลฯ อะไรประมาณนี้ แต่งานออกมาจะมีคุณภาพเพราะเขาไม่ต้องการให้เสียชื่อบริษัท..... มีสัญญารับประกัน โครงสร้างบ้าง รอยแตกร้าวบ้าง ทรุดบ้าง ต่างๆ นานา ขึ้นอยู่แต่ละบริษัท โอกาสในการทิ้งงาน จะมีน้อยกว่า เพราะมีเงินทุนสำรองอยู่ (น้อยแต่ไม่ได้หมายความว่าไม่มีนะจ๊ะ...) แต่อย่างไรซะ บริษัทก็ไปจ้างผู้รับเหมาอีกทีนั่นแหละ
.......ถ้าเป็นผู้รับเหมาธรรมดา แน่นอนละ ไม่มีค่าเช่าบริษัท ค่าพนักงาน ค่าอะไรต่อมิอะไร ไม่มี มีแต่ค่าแรงและค่าวัสดุ ราคาก็น่าจะย่อมถูกว่า บริษัท โอกาสในการทิ้งงาน อาจมีมากกว่า เพราะผู้รับเหมาส่วนใหญ่ไม่มีเงินสำรอง บางทีเอาเงินเราไปมาก แต่ทำงานได้คุ้มกับเงินที่เสียไป อะไรประมาณนี้ ........เป็นเรื่องที่ต้องชั่งใจอยู่พอสมควร สุดท้ายก็เลือกทั้ง 2 แบบเลย เลือกคุยนะ ยังไม่ได้ตัดสินใจทำสัญญากับใคร
........เราเดินเข้าบริษัทรับสร้างบ้านแห่งหนึ่ง ใน จ.ราชบุรี เพราะเห็นไปตั้งบูท ประชาสัมพันธ์ รับสร้างบ้านคุณภาพดี ราคาถูก....โดยถือแบบบ้านครอบครัวไทยเป็นสุข 2 เข้าไปด้วย เราได้มีโอกาสเข้าไปคุยกับวิศวกรประจำบริษัท เดาเอาว่า น่าจะมีหุ้นส่วนในบริษัทนี้อยู่บ้าง หรือไม่ก็อาจเป็นเจ้าของก็เป็นได้..... เราเอาแบบบ้านให้เขาดู .....พักนึง....ยิ้มมุมปาก มองรอดแว่น แล้วก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ฟังดู สุขุม เยื่อกกกก เย็นนนน มาก ว่า "ขนาดของห้องแต่ละห้องเล็กเกินไป (ประมาณ 3x3 ม. ) น่าจะขยายซักหน่อยจะได้ไม่อึดอัด เดี่ยวให้น้องเขาจัดการให้ก็ได้นะครับ....... หลังคาเป็นจั่ว เดี่ยวฝนจะสาด เข้าตัวบ้าน ผมว่าเป็นปั้นหยาดีกว่านะ ..... เดี่ยวให้น้องทำแบบให้ใหม่...... ถ้าคุณทำสัญญากับเรา เราไม่คิดค่าแบบนะครับ...กระเบื้องให้ ตรมละ 400 หลังคา ซีแพค สุขภัณ คอดโต้ ฯลฯ .....คุยกับพักนึ่ง ก็ได้คำต่อบที่ต้องการ คือ ราคาก่อสร้างประมาณ 1.3 ล้าน ....ราคานี้ ถ้าทำสัญญาภายใน 4 เดือน อื่มมมมมม.....นะก็ต้องเข้าใจ เหล็ก หิน ดินทราย แข่งกันขึ้นราคา.......แต่ก็ตกลงให้เขาเขียนแบบไปแล้วล่ะ คงไม่เท่าไรหรอกเพราะแบบมีอยู่แล้ว แค่ขยาย ให้กว้างกว่าเดิมนิดหนอ่ยเอง.....
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น